การออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียน
ตารางการออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียน
รูปแบบการสอน
|
ขั้นที่ 1
|
ขั้นที่ 2
|
ขั้นที่ 3
|
Constructionism
|
1. Explore การสำรวจตรวจค้น
คือขั้นตอนนี้บุคคลจะเริ่มสำรวจตรวจค้นหรือพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งใหม่ (assimilation) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อได้พบหรือ ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆที่ไม่มีอยู่ในสมองของตน ก็จะพยายามรับหรือดูดซึมเก็บเข้าไปเป็นความรู้ใหม่ |
2. Experiment
การทดลอง คือขั้นตอนนี้จะเป็นการทดลองทำภายหลังจากที่มีการสำรวจไปแล้วเป็นการปรับความแตกต่างระหว่างของใหม่กับของเดิมจนเกิดความเข้าใจว่าควรจะทำอย่างไรกับสิ่งใหม่นี้ต่อไป |
3. Learning by doing การเรียนรู้จากการกระทำ คือการลงมือปฏิบัติแล้วสร้างองค์ความรู้ใหม่เป็นองค์ความรู้ของตนเอง ขั้นตอนนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างการรับหรือดูดซึม และการปรับความแตกต่าง
|
Biggs 3P Model
|
1. ครูนำ เสนอบทเรียนในขั้นนำ เสนอ(P1 = Presentation)โดยนำ เสนอเป็นรูปประโยคที่ใช้ในการสื่อสาร (Whole Language) ไม่แยกสอนเป็นคำ ๆ นักเรียนจะเข้าใจภาษานั้นโดยภาพรวม หลีกเลี่ยงการแปลคำ ต่อคำ การนำ เสนอต้องชัดเจน และตรวจสอบจนแน่ใจว่านักเรียนเข้าใจสิ่งที่ครูนำ เสนอนั้น
|
2. ครูใช้กิจกรรมในขั้นฝึก (P2=Practice) อย่างหลากหลาย โดยยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ฝึกหัดและพูดในกลุ่มใหญ่ก่อน ฝึกกลุ่มโดยใช้การฝึกลูกโซ่ ฝึกคู่เปลี่ยนกันถามตอบ และก็ฝึกเดี่ยวโดยพูดกับครูทีละคน
|
3. กิจกรรมขั้นนำ เสนอผลงานP3 (Production) เป็นขั้นที่นักเรียนจะนำ ภาษาไปใช้ ครูอาจจะให้ทำ แบบฝึกหัด อ่านและเขียนร้องเพลงหรือเล่นเกม ที่สืบเนื่องและเกี่ยวข้องกับภาษาที่เรียนมาในขั้นที่ 1 และ 2 อาจให้ทำ งานเป็นการบ้านหรือสร้างสรรค์ผลงาน
|
Su learning Model
|
1. ผู้เรียนกำหนดกรอบวัตถุประสงค์การเรียนรู้ของตนเอง ด้วยการระบุ ความรู้และการปฏิบัติโดยระบุความรู้ ในรูปของสารสนเทศหรือdeclarative knowledge และระบุทักษะ การปฏิบัติ(โครงงาน งานภาระงาน) กลยุทธ์ ทักษะ หรือกระบวนการ หรือprocedural knowledge และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
|
2. ผู้เรียนออกแบบการเรียนรู้ และระบุเกณฑ์คุณภาพวัตถุประสงค์การเรียนรู้เป็นค่าระดับตามโครงสร้างการสังเกตผลการเรียนรู้ (structure of observed learning out-comes:SOLO Taxonomy)
|
กรณีที่วัตถุประสงค์เป็นความรู้ความเข้าใจ จะระบุเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน(collaborative learning)หรือการเรียนรู้แบบนำตนเอง(self-directed learning)โดยคำนึงถึงความมีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพ ถ้าผู้เรียนต้องการการเรียนรู้แบบการมีความคิดวิจารณญาณ จำเป็นจะต้องใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือกัน(cooperative learning) มีการอภิปรายเรื่องราวที่เรียนรู้ กลยุทธการเรียนรู้แบบท างานเป็นทีม หรือกลยุทธการเรียนรู้เพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์
|
DRU Model
|
1. P= Planning การวางแผน
D = Design การออกแบบและการพัฒนา
C = Cognitive network ความรู้ความกระจ่างชัด
A = Affective network การเรียนรู้จากเพื่อนร่วม วิชาชีพ
|
2. C= Cognitive network ความรู้ความกระจ่างชัด
L = Learning การเรียนรู้
M = Management การจัดการ,การควบคุม
S = Strategic network กลวิธี
|
3. A = Assessment การประเมินค่า
S = Strategic network กลวิธี
A = Affective network การเรียนรู้จากเพื่อนร่วมวิชาชีพ
E = Evaluation การประเมินผล
|
การทดลองใช้การวิจัยในชั้นเรียน
1. Pre Test
- สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน
- ตั้งปัญหาที่จะศึกษา
เด็กนักเรียนชั้น ม.3 บกพร่องการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม
2. สมมุติฐาน
ถ้านักเรียนในชั้นเรียนได้แสดงทัศนคติร่วมกันและได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันในการทำกิจกรรมต่างๆพอสมควร ดังนั้นนักเรียนจะสามารถทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เลือกใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ DRU Model (K, A, P)
ผลการเรียนรู้
|
คำแสดงกริยาเชิงพฤติกรรม
|
1. ความรู้(K)
|
บอก เล่า อธิบาย ระบุ ยกตัวอย่าง ฯลฯ
|
2. กระบวนการ(P)
| |
2.1 กระบวนการคิด
|
จำแนก จัดกลุ่ม เปรียบเทียบ นำไปใช้ ประยุกต์ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมิน ตัดสินใจ แก้ปัญหา ฯลฯ
|
2.2 กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการสังคม
|
ทำงานเป็นกลุ่ม แสดงบทบาทหัวหน้า เลขา และ สมาชิกกลุ่ม มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้อื่น
|
2.3 การปฏิบัติ
|
ทดลอง ทำกิจกรรม สร้าง ออกแบบ พัฒนา ใช้อุปกรณ์ ใช้เครื่องมือ ฯลฯ
|
2.4 กระบวนการสื่อสาร
|
ฟัง พูด อ่าน เขียน ฯลฯ
|
3.คุณลักษณะอันพึงประสงค์และเจตคติ (A)
|
ตระหนัก ยอมรับ สนใจ ใฝ่รู้ รับผิดชอบ ซื่อสัตย์
|
4. Port Test
- สรุปผลการตั้งสมมติฐาน
ระยะเวลา 2 อาทิตย์ นักเรียนชั้น ม.2 มีพฤติกรรมที่มีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากผ่านกระบวนการที่ได้นำมาใช้ นักเรียนสามารถทำงานร่วมกัน อภิปรายและประสานงานกันได้ดีอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บรรยากาศในการเรียนภายในห้องเรียนเป็นไปอย่างสนุก ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้นจากการกล้าแสดงออกทางความคิด
การเปรียบเทียบการสอนรูปแบบเก่ากับรูปแบบใหม่
การสอนรูปแบบเก่า
|
การสอนรูปแบบใหม่ (DRU)
|
ขั้นนำ
ครูให้นักเรียนทบทวนความรู้เดิม ยกตัวอย่างสิ่งที่อยู่รอบๆตัว
ครูใช้คำถามเพื่อให้นักเรียนตอบ
ครูมีกิจกรรมก่อนเข้าสู่บทเรียน เช่น ร้องเพลง เต้น หรือใช้เกม
|
Planning การวางแผน
นักเรียนออกแบบการจัดการเรียนรู้
นักเรียนค้นคว้า เรียนรู้จาก PPT,E-Book,ใบความรู้
นักเรียนคุยกับเพื่อน กับผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ
|
ขั้นสอน
ครูให้นักเรียนทำการทดลอง
ครูสอนแบบบรรยาย โดยใช้หนังสือหรือ ใช้ Power Point (PPT)
ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดลงสมุด หนังสือ
|
Cognitive network ความรู้ความกระจ่างชัด
นักเรียนเลือกได้ว่าจะเรียนรู้จาก PPT,E-Book หรือใบความรู้
นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข
นักเรียนกำหนดกลวิธีในการเรียนรู้
|
ขั้นสรุป
ครูให้นักเรียนทำใบงาน
ครูให้นักเรียนนำเสนอผลงาน
ครูให้นักเรียนสรุปโดยทำแผนผังความคิด
|
Assessment การประเมินค่า
นักเรียนมีกลวิธีในการเรียนรู้ การแบ่งงาน ทำงานตามความสามารถ
นักเรียนประเมินตรวจสอบ หรือทบทวนตัวเอง
นักเรียนคุยกับเพื่อน ผู้รู้ และผู้เชี่ยวชาญ
|
นางสาวอัจฉรา มะณีกรด รหัสนักศึกษา 5641060112
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป กลุ่ม 12 รุ่น 56 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี