วันพุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2560

การออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียน Room12/56

การออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียน

ตารางการออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียน

รูปแบบการสอน
ขั้นที่ 1
ขั้นที่ 2
ขั้นที่ 3
Constructionism
1. Explore    การสำรวจตรวจค้น
คือขั้นตอนนี้บุคคลจะเริ่มสำรวจตรวจค้นหรือพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งใหม่ (assimilation) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อได้พบหรือ ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆที่ไม่มีอยู่ในสมองของตน ก็จะพยายามรับหรือดูดซึมเก็บเข้าไปเป็นความรู้ใหม่
2. Experiment
การทดลอง คือขั้นตอนนี้จะเป็นการทดลองทำภายหลังจากที่มีการสำรวจไปแล้วเป็นการปรับความแตกต่างระหว่างของใหม่กับของเดิมจนเกิดความเข้าใจว่าควรจะทำอย่างไรกับสิ่งใหม่นี้ต่อไป
3. Learning by doing การเรียนรู้จากการกระทำ คือการลงมือปฏิบัติแล้วสร้างองค์ความรู้ใหม่เป็นองค์ความรู้ของตนเอง ขั้นตอนนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างการรับหรือดูดซึม และการปรับความแตกต่าง
Biggs 3P Model
1. ครูนำ เสนอบทเรียนในขั้นนำ เสนอ(P1 = Presentation)โดยนำ เสนอเป็นรูปประโยคที่ใช้ในการสื่อสาร (Whole Language) ไม่แยกสอนเป็นคำ ๆ นักเรียนจะเข้าใจภาษานั้นโดยภาพรวม หลีกเลี่ยงการแปลคำ ต่อคำ การนำ เสนอต้องชัดเจน และตรวจสอบจนแน่ใจว่านักเรียนเข้าใจสิ่งที่ครูนำ เสนอนั้น
2. ครูใช้กิจกรรมในขั้นฝึก (P2=Practice) อย่างหลากหลาย โดยยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง  ฝึกหัดและพูดในกลุ่มใหญ่ก่อน ฝึกกลุ่มโดยใช้การฝึกลูกโซ่  ฝึกคู่เปลี่ยนกันถามตอบ และก็ฝึกเดี่ยวโดยพูดกับครูทีละคน
3. กิจกรรมขั้นนำ เสนอผลงานP3 (Production) เป็นขั้นที่นักเรียนจะนำ ภาษาไปใช้ ครูอาจจะให้ทำ แบบฝึกหัด อ่านและเขียนร้องเพลงหรือเล่นเกม ที่สืบเนื่องและเกี่ยวข้องกับภาษาที่เรียนมาในขั้นที่ 1 และ 2 อาจให้ทำ งานเป็นการบ้านหรือสร้างสรรค์ผลงาน
Su learning Model
1. ผู้เรียนกำหนดกรอบวัตถุประสงค์การเรียนรู้ของตนเอง ด้วยการระบุ ความรู้และการปฏิบัติโดยระบุความรู้ ในรูปของสารสนเทศหรือdeclarative knowledge และระบุทักษะ การปฏิบัติ(โครงงาน งานภาระงาน) กลยุทธ์ ทักษะ หรือกระบวนการ หรือprocedural knowledge และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
2. ผู้เรียนออกแบบการเรียนรู้ และระบุเกณฑ์คุณภาพวัตถุประสงค์การเรียนรู้เป็นค่าระดับตามโครงสร้างการสังเกตผลการเรียนรู้ (structure of observed learning out-comes:SOLO Taxonomy)
กรณีที่วัตถุประสงค์เป็นความรู้ความเข้าใจ จะระบุเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน(collaborative learning)หรือการเรียนรู้แบบนำตนเอง(self-directed learning)โดยคำนึงถึงความมีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพ ถ้าผู้เรียนต้องการการเรียนรู้แบบการมีความคิดวิจารณญาณ จำเป็นจะต้องใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือกัน(cooperative learning) มีการอภิปรายเรื่องราวที่เรียนรู้ กลยุทธการเรียนรู้แบบท างานเป็นทีม หรือกลยุทธการเรียนรู้เพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์
DRU  Model
1. P= Planning การวางแผน

D = Design การออกแบบและการพัฒนา
C = Cognitive network  ความรู้ความกระจ่างชัด
A = Affective network    การเรียนรู้จากเพื่อนร่วม วิชาชีพ
2. C= Cognitive network  ความรู้ความกระจ่างชัด

L = Learning การเรียนรู้
M = Management  การจัดการ,การควบคุม
S = Strategic network  กลวิธี
3. A = Assessment การประเมินค่า

S = Strategic network  กลวิธี
A = Affective network  การเรียนรู้จากเพื่อนร่วมวิชาชีพ
E = Evaluation  การประเมินผล

การทดลองใช้การวิจัยในชั้นเรียน
1. Pre Test
สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน
- ตั้งปัญหาที่จะศึกษา
เด็กนักเรียนชั้น ม.บกพร่องการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม
2. สมมุติฐาน
ถ้านักเรียนในชั้นเรียนได้แสดงทัศนคติร่วมกันและได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันในการทำกิจกรรมต่างๆพอสมควร ดังนั้นนักเรียนจะสามารถทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เลือกใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ DRU Model (K, A, P)

ผลการเรียนรู้
คำแสดงกริยาเชิงพฤติกรรม
1. ความรู้(K)
บอก เล่า อธิบาย ระบุ ยกตัวอย่าง ฯลฯ
2. กระบวนการ(P)
2.1 กระบวนการคิด
จำแนก จัดกลุ่ม เปรียบเทียบ นำไปใช้ ประยุกต์ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมิน ตัดสินใจ แก้ปัญหา ฯลฯ
2.2 กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการสังคม
ทำงานเป็นกลุ่ม  แสดงบทบาทหัวหน้า เลขา และ สมาชิกกลุ่ม มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้อื่น
2.3 การปฏิบัติ
ทดลอง ทำกิจกรรม สร้าง ออกแบบ พัฒนา ใช้อุปกรณ์ ใช้เครื่องมือ ฯลฯ
2.4 กระบวนการสื่อสาร
ฟัง พูด อ่าน เขียน ฯลฯ
3.คุณลักษณะอันพึงประสงค์และเจตคติ  (A)
ตระหนัก ยอมรับ  สนใจ ใฝ่รู้ รับผิดชอบ ซื่อสัตย์
    
4. Port Test
สรุปผลการตั้งสมมติฐาน
        ระยะเวลา อาทิตย์ นักเรียนชั้น ม.มีพฤติกรรมที่มีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากผ่านกระบวนการที่ได้นำมาใช้ นักเรียนสามารถทำงานร่วมกัน อภิปรายและประสานงานกันได้ดีอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บรรยากาศในการเรียนภายในห้องเรียนเป็นไปอย่างสนุก ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้นจากการกล้าแสดงออกทางความคิด 

การเปรียบเทียบการสอนรูปแบบเก่ากับรูปแบบใหม่

การสอนรูปแบบเก่า
การสอนรูปแบบใหม่ (DRU)
ขั้นนำ

ครูให้นักเรียนทบทวนความรู้เดิม ยกตัวอย่างสิ่งที่อยู่รอบๆตัว
ครูใช้คำถามเพื่อให้นักเรียนตอบ
ครูมีกิจกรรมก่อนเข้าสู่บทเรียน เช่น ร้องเพลง เต้น หรือใช้เกม
Planning การวางแผน

นักเรียนออกแบบการจัดการเรียนรู้
นักเรียนค้นคว้า เรียนรู้จาก PPT,E-Book,ใบความรู้
นักเรียนคุยกับเพื่อน กับผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ
ขั้นสอน

ครูให้นักเรียนทำการทดลอง
ครูสอนแบบบรรยาย โดยใช้หนังสือหรือ ใช้ Power Point (PPT)
ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดลงสมุด หนังสือ
Cognitive network  ความรู้ความกระจ่างชัด

นักเรียนเลือกได้ว่าจะเรียนรู้จาก PPT,E-Book หรือใบความรู้
นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข
นักเรียนกำหนดกลวิธีในการเรียนรู้
ขั้นสรุป

ครูให้นักเรียนทำใบงาน
ครูให้นักเรียนนำเสนอผลงาน
ครูให้นักเรียนสรุปโดยทำแผนผังความคิด
Assessment การประเมินค่า

นักเรียนมีกลวิธีในการเรียนรู้ การแบ่งงาน ทำงานตามความสามารถ
นักเรียนประเมินตรวจสอบ หรือทบทวนตัวเอง
นักเรียนคุยกับเพื่อน ผู้รู้ และผู้เชี่ยวชาญ


นางสาวอัจฉรา มะณีกรด รหัสนักศึกษา 5641060112

สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป กลุ่ม 12 รุ่น 56 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น